จุดเลือกอื่นๆ เช่น ความละเอียด หรือขนาดหน้าจอว่าจะใหญ่กี่นิ้ว ตรงนี้คงเป็นเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละท่านว่า พื้นที่ทำงานใหญ่แค่ไหน นิยมชมชอบ หรือมีงบในการซื้อจอมากน้อยแค่ไหน
ในความเป็นจริงจุดที่ทำให้เสป็คต่างๆ ที่กล่าวมาก่อนหน้า ต่างกันอย่างชัดเจนมีเพียงอย่างเดียวครับ
คือ ชนิดของ Panel จอ หรือเรียกได้ว่า เทคโนโลยีที่ใช้ผลิตจอนั่นเอง
ปัจจุบัน Panel ที่ใช้บนจอคอมพิวเตอร์ มีให้เห็น 3แบบ หลักๆ คือ TN film , PVA และ IPS
โดยที่แนวโน้มในปัจจุบัน จอที่ขายในตลาด PVA ( อาจจะเห็นในชื่อ S-PVA ) ที่ถึงแม้จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็มีราคาสูง
ทำให้ได้รับความนิยมลดลง แต่เดิม Panel แบบ S-PVA จะพบในจอ Mac ซึ่งปัจจุบัน Apple เองก็เปลี่ยนมาใช้จอแบบ IPS หมดแล้ว ในที่นี้ จึงจะขอกล่าวถึงข้อดีข้อเสีย ของจอเพียงสองแบบ คือ TN กับ IPS ตามตาราง
ท้ายที่สุดครับ หากท่านต้องการเลือกใช้จอสักจอ เพื่อการแต่งภาพ ปัจจุบัน ราคาสำหรับ จอ IPS แบบที่ราคาย่อมเยาว์หน่อยจะมีราคาเริ่มต้นประมาณ 7000 บาท ซึ่งแพงกว่า จอ TN Film แค่พันกว่าบาท แต่มีประสิทธิภาพดีกว่าในหลายๆด้าน ผมก็แนะนำว่าถ้างบประมาณถึง ก็ควรเลือกซื้อที่เป็น IPS โดยท่านอาจจะต้องตรวจสอบ เสป็ค ให้ละเอียดอีกครั้งว่า จอรุ่นไหนยี่ห้อไหนดีกว่ากันให้เกิดความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
แต่หากท่านมีงบประมาณจำกัดผู้เขียนก็ไม่อยากให้ท่านต้องเป็นกังวลมากเกินไป เพราะจอ TN film ในปัจจุบันนี้ ก็มีความสามารถในการแสดงผลดีขึ้นมาก จนไม่ได้เป็นปัญหาในการทำงาน หากท่านได้ทำการจัดการสี ( Color Management )
เพื่อให้ จอ และงานพิมพ์ของท่าน ให้สีที่ใกล้เคียงกันอยู่เสมอ ซึ่งผมมองว่าเป็นเรื่องสำคัญกว่าประสิทธิภาพจอ
เพราะถึงแม้ท่านจะซื้อจอที่มีคุณภาพสูงมากมายเท่าไหร่ หากจอของท่านไม่ถูกจัดการสีให้ตรง ก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดีครับ
หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์ต่อท่านสมาชิกสมาคมธุรกิจการถ่ายภาพทุกท่าน ให้สามารถนำความรู้ไปพัฒนาคุณภาพการผลิตภาพถ่ายให้สูงขึ้น เนื่องจากความรู้นี้เป็นความรู้ที่ผู้เขียนได้ศึกษาเอาเองจากหนังสือ และ ข้อมูลต่างๆตามอินเทอร์เน็ต
ไม่ได้เรียนจากที่ไหนมา หากมีส่วนไหนขาดตกบกพร่อง ก็ต้องขออภัยมา ณ. ที่นี่และน้อมรับคำตำหนิติติงเพื่อปรับปรุงแก้ไขครับ
หากท่านมีคำถามใดๆ สอบถามได้ที่ http://www.facebook.com/Bottle.photo ครับ